กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ
สำนักโภชนาการ จัดประชุมคณะทำงานควบคุมและป้องกันภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กและกรดโฟลิก ครั้งที่ 2/2568 วันศุกร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 เวลา 14.30 – 16.30 น. ณ ห้องประชุมอุทัย พิศลยบุตร อาคาร 4 ชั้น 5 สำนักโภชนาการ กรมอนามัย และผ่านระบบออนไลน์ Web Conference
ประธาน : ดร.นพ.ปองพล วรปาณิ รองอธิบดีกรมอนามัย มอบหมาย ดร.พญ.สายพิณ โชติวิเชียร ผู้อำนวยการสำนักโภชนาการ เป็นประธานการประชุม
ผู้เข้าร่วมประชุม : คณะทำงานควบคุมและป้องกันภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กและกรดโฟลิก ประกอบด้วย พญ.แสงโสม สีนะวัฒน์ ที่ปรึกษากรมอนามัย แพทย์และผู้เชี่ยวชาญจากราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย สมาคมโลหิตวิทยาแห่งประเทศไทย สมาคมโภชนาการเด็กแห่งประเทศไทย สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล องค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น ศูนย์อนามัยที่ 9 นครราชสีมา กองแผนงาน และสำนักโภชนาการ รวมจำนวน 20 คน
วัตถุประสงค์ :
1. เพื่อรายงานผลเพิ่มเติมโครงการศึกษาประสิทธิภาพของการเสริมธาตุเหล็กทุกวันและสัปดาห์ละครั้งต่อความชุกภาวะโลหิตจางในเด็กทารกไทย 6 - 12 เดือน
2. เพื่อพิจารณา (ร่าง) เอกสารสาระสำคัญคู่มือแนวทางการควบคุมและป้องกันภาวะโลหิตจาง พ.ศ. 2568
สรุปสาระสำคัญ :
ผลการวิเคราะห์เพิ่มเติมในโครงการศึกษาประสิทธิภาพของการเสริมธาตุเหล็กทุกวันและสัปดาห์ละครั้งต่อความชุกภาวะโลหิตจางในเด็กทารกไทย 6 - 12 เดือน แยกกลุ่มตามชนิดฮีโมโกลบิน พบว่ากลุ่ม abnormal Hb typing พบแนวโน้มความชุกของภาวะโลหิตจางและการขาดธาตุเหล็กต่ำกว่ากลุ่ม normal Hb typing และเมื่อได้รับธาตุเหล็กเสริมระหว่างกลุ่ม Hb ชนิดปกติ และพาหะ/โรคธาลัสซีเมียไม่พบความแตกต่างของระดับ Hb ferritin และในกลุ่มที่เป็นโรคธาลัสซีเมีย (β-thalassemia/HbE disease จำนวน 6 ราย) หลังได้รับธาตุเหล็กทั้งแบบสัปดาห์ละครั้งและได้รับทุกวันนาน 3 เดือน ไม่พบภาวะเหล็กเกิน (ferritin < 100 µg/L) และยังพบภาวะโลหิตจางร่วมด้วยในกลุ่ม abnormal Hb typing
จำแนกกลุ่มวิเคราะห์เพิ่มเติมตามลักษณะการให้นม พบว่าทารกหลังอายุ 6 เดือน ในกลุ่มทารกที่ได้นมแม่เปรียบเทียบกับกลุ่มที่ให้อาหารและนมผสม (ซึ่งมีการเสริมธาตุเหล็ก) พบว่า ระดับ Hb และ ferritin ต่ำกว่ากลุ่มที่ได้อาหารและนมผสม และส่งผลให้ทารกหลังอายุ 6 เดือน ที่ได้นมแม่โดยไม่ใช้นมผสมหรือนมอื่นๆ มีความชุกของภาวะโลหิตจางและภาวะขาดธาตุเหล็กสูงกว่า
จากผลการศึกษาดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า
มติที่ประชุม ให้ใช้แนวทางตามนโยบายเดิม คือ ให้ยาน้ำเสริมธาตุเหล็กสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ในเด็กอายุ 6 เดือน – 5 ปี และเน้นย้ำสื่อสารเรื่องอาหารตามวัย พร้อมคัดกรองภาวะโลหิตจางที่เด็กอายุ 9 เดือน และ 4 ปี
(ร่าง) เอกสารสาระสำคัญคู่มือแนวทางการควบคุมและป้องกันภาวะโลหิตจาง พ.ศ. 2568 จะจัดทำเผยแพร่เป็นรูปแบบแผ่นพับ 6 หน้าในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2568 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างสะดวกและสื่อสารแนวทางที่เป็นปัจจุบัน โดยเล่มฉบับสมบูรณ์จะจัดทำตามมาภายหลัง โดยเนื้อหาในแผ่นพับคู่มือฯประกอบด้วย 1) ประเด็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ 2) แนวทางส่งเสริมธาตุเหล็กสำหรับประชาชน แบ่งเป็น มาตรการส่งเสริมการบริโภคอาหาร และมาตรการเสริมธาตุเหล็ก 3) การดำเนินงานควบคุมและป้องกันโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก 4) แนวทางการรักษาภาวะโลหิตจางและภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก มติที่ประชุมเห็นชอบกรอบเนื้อหาหลัก โดยปรับรายละเอียดเพิ่มเติมตามคำแนะนำของอาจารย์แพทย์ และผู้เชี่ยวชาญจากราชวิทยาลัย สถาบัน องค์กรวิชาการ ที่อยู่ในคณะทำงานฯ ชุดนี้
ก้าวต่อไป
สำนักโภชนาการแจ้งเวียน (ร่าง) เอกสารสาระสำคัญ คู่มือแนวทางการควบคุมและป้องกันภาวะโลหิตจาง พ.ศ. 2568 ให้คณะทำงานฯ พิจารณาเนื้อหาอีกครั้ง ก่อนจัดทำและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ต่อไปให้แล้วเสร็จในเดือน กรกฎาคม 2568