กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ
เรื่อง : กินเค็ม ไม่ได้เสี่ยงแค่โรคไต แต่ยังเสี่ยง “โรคหัวใจและหลอดเลือด”
เรียบเรียงโดย
นางสาวทิพรดี คงสุวรรณ นักโภชนาการปฏิบัติการ
สำนักโภชนาการ กรมอนามัย เบอร์ 02 590 4334
วันที่ตรวจสอบ 1 ธันวาคม 2564
ข้อสรุป : การได้รับโซเดียมในปริมาณสูงอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของระดับ ความดันโลหิต เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง หัวใจและหลอดเลือด ไต เบาหวาน และ อัมพฤกษ์ อัมพาตได้
ลักษณะข่าว : ข่าวจริง
url website : https://www.sanook.com/health/27837/
ข้อเท็จจริง: ร่างกายได้รับโซเดียมจากอาหาร เครื่องปรุงรส เช่น น้ำปลา กะปิ เกลือ ซอสปรุงรส ซุปก้อน น้ำจิ้ม เป็นต้น นอกจากนี้โซเดียมยังแฝงในอาหารอื่นที่ไม่มีรสชาติเค็ม เช่น ผงชูรส ผงฟู เป็นต้น หรืออาหารแปรรูปต่างๆ ผลเสียจากการกินเค็มหรือโซเดียมสูง ทำให้ความดันโลหิตสูง หัวใจออกแรงบีบตัวมากขึ้นเพื่อส่งเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ การกินเค็มนอกจากส่งผลเสียต่อไต ยังส่งผลเสียต่อระบบหัวใจและหลอดเลือดยด้วย
ผลกระทบ: การกินเค็มมีผลทำให้เกิดการคั่งของเกลือและน้ำในอวัยวะต่างๆ ระดับความดันโลหิตสูงขึ้น ทำให้ไตทำงานมากขึ้น และทำให้เกิดผลเสียอื่นๆต่อร่างกายด้วย เช่น ทำให้ผนังของหัวใจหนาตัวขึ้น
ข้อแนะนำ: ไม่ควรบริโภคเกลือเกิน 1 ช้อนชาต่อวัน( 5 กรัม) คิดเป็นโซเดียม 2,000 มิลลิกรัม ลดการบริโภคเกลือลงเหลือ 3 กรัมต่อวัน จะช่วยลดความดันโลหิตและป้องกันการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ดียิ่งขึ้น
เอกสารอ้างอิง :
https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/article
J Clin Hypertens (Greenwich) 2018;12:1654-1665.
4. Jaques DA,Wuerzner G,Ponte B.Review Sodium Intake as a Cardiovascular Risk Factor: A Narrative Review. Nutrients 2021;13:3177.