เรื่อง : น้ำสับปะรดคั้นผสมขิง เป็นยาช่วยย่อย
เรียบเรียงโดย
นางสาวลักษณิน รุ่งตระกูล
นักโภชนาการชำนาญการ
สำนักโภชนาการ กรมอนามัย โทร.0 2590 4794
วันที่ตรวจสอบ 1 กุมภาพันธ์ 2565
ข้อสรุป : ดื่มน้ำคั้นสับปะรดผสมขิงหลังมื้ออาหาร มีฤทธิ์เป็นยาช่วยย่อย
ลักษณะข่าว : ข่าวค่อนข้างจริง
ข้อเท็จจริง : สับปะรดมีกากใยสูง และมีเอนไซม์ Bromelain ช่วยเสริมการย่อยอาหาร จึงเหมาะสำหรับ กินหลังอาหาร ส่วนในขิงสดมีสาร Gingerols และ Shogaols มีฤทธิ์ช่วยขับลม ช่วยเสริมระบบย่อยอาหาร แต่สารเหล่านี้จะออกฤทธิ์ได้ดีเมื่อนำขิงมาประกอบอาหารโดยผ่านความร้อน
ผลกระทบ : สับปะรดมีน้ำตาลค่อนข้างสูง โดย 100 กรัม มีน้ำตาลเฉลี่ย 12.9 กรัม ผู้ที่ต้องควบคุมระดับน้ำตาลจึงไม่ควรกินมากเกินไป และการกินสับปะรดขณะท้องว่างอาจระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหารได้
ข้อแนะนำ : ใน 1 วัน ควรกินผลไม้ประมาณ 4 ส่วน (สับปะรด 6 ชิ้นพอดีคำ = 1 ส่วน) โดยควรกินผลไม้ให้หลากหลายสี สำหรับขิงสดเป็นสมุนไพรช่วยขับลมสามารถนำมาประกอบอาหารได้ เช่น ปลานึ่งขิง โจ๊กหมูใส่ขิง ตับผัดขิง
เอกสารอ้างอิง :
สำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. ตารางแสดงคุณค่าทางโภชนาการของอาหารไทย. พิมพ์ครั้งที่ 1 : สำนักงานกิจการโงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก. กันยายน 2561. 143 หน้า.
Ruchi Badoni Semwal, Deepak KumarSemwal, SandraCombrinck and Alvaro M.Viljoen . Gingerols and shogaols: Important nutraceutical principles from ginger. Phytochemistry Volume 117 , September 2015, Pages 554-568.
กฤติยา ไชยนอก. สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล. สับปะรด : ผลไม้รักษาโรค. บทความเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชน. สืบค้นวันที่ 31 มกราคม 2565.