กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ
เรื่อง : ผักเชียงดา’ กับฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด เสริมเกราะป้องกันโควิด
เรียบเรียงโดย
นางสาวณิชพัณณ์ ฐิระโกมลพงศ์
นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ชำนาญการพิเศษ
สำนักโภชนาการ กรมอนามัย เบอร์ 02 9687619
วันที่ตรวจสอบ 6 มีนาคม 2565
ข้อสรุป : กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกจัดผักเชียงดาอยู่ในกลุ่มผักที่มีวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระสูง สามารถช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ต้านการติดเชื้อไวรัส ลดความเสี่ยงและเป็นเกราะป้องกันไวรัสโควิด-19 คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่าผักเชียงดาช่วยลดน้ำตาลในเลือด ป้องกันและควบคุมโรคเบาหวานซึ่งเป็นโรคที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิตหากติดเชื้อโควิด การศึกษาทางคลินิกพบว่ากลุ่มที่ดื่มชาเชียงดาสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีกว่ากลุ่มที่ไม่ได้ดื่ม อย่างไรก็ตามเมื่อทำการศึกษาในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่2 กลับไม่พบฤทธิ์รักษาเบาหวานดังกล่าว การศึกษาฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือดของผักเชียงดายังมีไม่มากนัก แต่ผักเชียงดาอาจใช้เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลขั้นต้น ข้อมูลจากดิสไทยรายงานผลการศึกษาว่าไม่พบความเป็นพิษของผักเชียงดา สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานที่กินยาแผนปัจจุบันและต้องการกินผักเชียงดา ควรใช้ความระมัดระวังเนื่องจากอาจเสริมฤทธิ์กับยาจนทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำเกินไปได้
ลักษณะข่าว : ข่าวจริง
url website: https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/965000
ข้อเท็จจริง : การบริโภคน้ำตาลส่งผลให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ถ้าระดับน้ำตาลสูงมากเกินปกติจะกดการทำงานของภูมิคุ้มกันร่างกายจะกำจัดเชื้อไวรัสลดลงเสี่ยงติดเชื้อมากขึ้นและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน ผักเชียงดามีวิตามินซีและสารกลุ่มฟีนอลิกค่อนข้างสูง และมีสารสำคัญคือ gymnemic acid ซึ่งมีฤทธิ์ชะลอการดูดซึมน้ำตาล กระตุ้นการซ่อมแซมตับอ่อนให้หลั่งอินซูลินอย่างมีประสิทธิภาพ จึงช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้
ผลกระทบ : ไม่พบผลข้างเคียงจากการกินผักเชียงดา ผู้ที่มีกรดในกระเพาะอาหารมากไม่ควรกินผักเชียงดาตอนท้องว่าง ผู้ป่วยเบาหวานควรปรึกษาแพทย์ก่อนกินผักเชียงดาและผลิตภัณฑ์จากผักเชียงดาทุกชนิด
ข้อแนะนำ : ผักพื้นบ้านอย่างผักเชียงดา นำมาปรุงเป็นอาหารได้ แต่ก็ควรจำกัดการกินแป้ง น้ำตาลและไขมัน ควบคุมน้ำหนักตัวในอยู่ในเกณฑ์ปกติ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ และกินอาหารให้หลากหลาย ครบ 5 หมู่ด้วย
เอกสารอ้างอิง :